วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Relationshop

one to one เป็นความสัมพันธ์ที่ในหนึ่ง record ของตารางหนึ่งมีความสัมพันธ์กับอีกหนึ่ง record ของอีกตารางหนึ่ง
many to many เป็นความสัมพันธ์ที่ข้อมูลหนึ่งหรือหลาย Record ในตารางหนึ่งมีความสัมพันธ์กับหนึ่งหรือหลาย Record ในอีกตารางหนึ่ง
one to many เป็นความสัมพันธ์ใน 1 Record ของตารางมีความสัมพันธ์กับอีกหนึ่งหรือหลาย Record ของตารางอื่น

วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

กำหนดสีแต่ละช่องในตาราง







หัวเรื่อง 1 หัวเรื่อง 2
ข้อมูล 1 ข้อมูล 2

สีฉากหลังของาราง








สีฉากหลังของตาราง
หัวเรื่อง 1 หัวเรื่อง 2
ข้อมูล 1 ข้อมูล 2

ตารางซ้อน








หัวเรื่อง 1 หัวเรื่อง 2
ข้อมูล 1 ข้อมูล 2
ข้อมูล 3



ข้อมูล 4 ข้อมูล 5

colum








หัวเรื่อง 1 หัวเรื่อง 2
ข้อมูล 1 ข้อมูล 2
ข้อมูล 3

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประโยชน์ของระบบจัดการฐานข้อมูล

ประโยชน์ของระบบจัดการฐานข้อมูล
1.ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล
2.รักษาความถูกต้องของข้อมูล
3. มีความเป็นอิสระของข้อมูล
4. มีความปลอดภัยของข้อมูลสูง
5. ใช้ข้อมูลร่วมกันโดยมีการควบคุมจากศูนย์กลาง

ระบบจัดการฐานข้อมูล

ระบบจัดการฐานข้อมูล (Database Management System) หรือที่เรียกว่า ดีบีเอ็มเอส (DBMS) เป็นกลุ่มโปรแกรมที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในระบบติดต่อระหว่างผู้ใช้กับฐานข้อมูล เพื่อจัดการและควบคุมความถูกต้อง ความซ้ำซ้อน และความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลต่างๆ ภายในฐานข้อมูล ซึ่งต่างจากระบบแฟ้มข้อมูลที่หน้าที่เหล่านี้จะเป็นหน้าที่ของโปรแกรมเมอร์ ในการติดต่อกับข้อมูลในฐานข้อมูลไม่ว่าจะด้วยการใช้คำสั่งในกลุ่มดีเอ็มแอล (DML) หรือ ดีดีแอล (DDL) หรือจะด้วยโปรแกรมต่างๆ ทุกคำสั่งที่ใช้กระทำกับข้อมูลจะถูกดีบีเอ็มเอสนำมาแปล (คอมไพล์) เป็นการปฏิบัติการ (Operation) ต่างๆ ภายใต้คำสั่งนั้นๆ เพื่อนำไปกระทำกับตัวข้อมูลภายในฐานข้อมูลต่อไป สำหรับส่วนการทำงานตางๆ ภายในดีบีเอ็มเอสที่ทำหน้าที่แปลคำสั่งไปเป็นการปฏิบัติการต่างๆ กับข้อมูลนั้น

ฐานข้อมูล

ฐานข้อมูล คือ ชุดของสารสนเทศที่มีโครงสร้างสม่ำเสมอ

ชุดของสารสนเทศใด ๆ ก็อาจเรียกว่าเป็นฐานข้อมูลได้ ถึงกระนั้น คำว่าฐานข้อมูลนี้มักใช้อ้างถึงข้อมูลที่ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ และถูกใช้ส่วนใหญ่เฉพาะในวิชาการคอมพิวเตอร์ บางครั้งคำนี้ก็ถูกใช้เพื่ออ้างถึงข้อมูลที่ยังมิได้ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์เช่นกัน ในแง่ของการวางแผนให้ข้อมูลดังกล่าวสามารถประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ได้

ระบบฐานข้อมูล

ระบบฐานข้อมูล (database) หมายถึง กลุ่มของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กันและถูกนำมาจัดเก็บในที่เดียวกัน โดยข้อมูลอาจเก็บไว้ในแฟ้มข้อมูลเดียวกันหรือแยกเก็บหลาย ๆ แฟ้มข้อมูล แต่ต้องมีการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลเพื่อประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูลในการจัดเก็บข้อมูลในระบบฐานข้อมูลมีข้อดีกว่าการจัดเก็บข้อมูลในระบบแฟ้มข้อมูลพอสรุปประเด็นหลัก ๆ ได้ดังนี้

· มีการใช้ข้อมูลร่วมกัน (data sharing)

· ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล (reduce data redundancy)

· ข้อมูลมีความถูกต้องมากขึ้น (improved data integrity)

· เพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูล (increased security)

· มีความเป็นอิสระของข้อมูล (data independency)

วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

รูปแบบตัวอักษร

ข้อความ
ข้อความ
ข้อความ
ข้อความ
ข้อความ
ข้อความ
ข้อความ
ข้อความ

วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การออกแบบและพัฒนาเว็บ

เว็บเพจ (WEBPAGE) หมายถึง หน้าหนึ่ง ๆ ของเว็บไซต์ ที่เราเปิดขึ้นมาใช้งาน

โดยทั่วไป เว็บเพจส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของเอกสาร HTML หรือ XHTML (ซึ่งมักมีนามสกุลไฟล์เป็น htm หรือ html) มีลิงก์สำหรับเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจหน้าอื่น ๆ สามารถใส่รูปภาพและรูปภาพยังสามารถเป็นลิงก์ กล่าวคือสามารถคลิกบนรูปเพื่อกระโดดไปหน้าอื่นได้ นอกจากนี้ยังสามารถใส่แอปเพล็ต (applet) ซึ่งเป็นโปรแกรมขนาดเล็กแสดงภาพเคลื่อนไหว มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ หรือสร้างเสียง ได้อีกด้วย

โปรแกรมที่ใช้เปิดดูเว็บเพจ เรียกว่า เว็บเบราว์เซอร์ ตัวอย่างเว็บเบราว์เซอร์ที่เป็นที่นิยม เช่น อินเทอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเรอร์, Netscape, มอซิลลา ไฟร์ฟอกซ์, และ ซาฟารี เป็นต้น

โปรแกรมสำหรับสร้างเว็บเพจ เช่น โปรแกรม Macromedia Dreamweaver , PHP & MySQL , Flash Professional เป็นต้น



เว็บไซต์ (Web Site) คือ แหล่งที่เก็บรวบรวมข้อมูลเอกสารและสื่อประสมต่าง ๆ เช่น ภาพ เสียง ข้อความ ของแต่ละบริษัทหรือหน่วยงานโดยเรียกเอกสารต่าง ๆ เหล่านี้ว่า เว็บเพจ (Web Page) และเรียกเว็บหน้าแรกของแต่ละเว็บไซต์ว่า โฮมเพจ (Home Page) หรืออาจกล่าวได้ว่า เว็บไซต์ก็คือเว็บเพจอย่างน้อยสองหน้าที่มีลิงก์ (Links) ถึงกัน ตามหลักคำว่า เว็บไซต์จะใช้สำหรับผู้ที่มีคอมพิวเตอร์แบบเซิร์ฟเวอร์หรือจดทะเบียนเป็นของตนเองเรียบร้อยแล้วเช่น www.google.co.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการสืบค้นข้อมูลเป็นต้น


สรุป เว็บไซต์ คือ ชื่อเรียกหรือที่อยู่ของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการเว็บเพจ คือ หน้าแต่ละหน้าที่มีการเชื่อมโยงถึงกันโฮมเพจ คือ หน้าแรกที่เข้าสู่เว็บไซต์นั้น ๆ


ส่วนประกอบของเว็บเพจที่สำคัญ มีดังนี้1. ข้อความ (Text) ได้แก่ ตัวอักษร ตัวเลข ซึ่งอาจเป็นภาษาอังกฤษ ไทย หรือภาษา อื่น ๆ ก็ได้2. กราฟิก (Graphics) ได้แก่ ภาพวาดและรูปภาพต่าง ๆ3. มัลติมีเดีย (Multimedia) ได้แก่ ภาพเคลื่อนไหว ภาพวีดิทัศน์ เสียง4. ลิงก์ (Link) ข้อความหรือรูปภาพที่มีลักษณะพิเศษ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงไปยัง เว็บเพจอื่น ๆ ได้ เราสามารถตรวจสอบได้ว่าส่วนใดเป็นลิงก์โดยนำเมาส์ไปนี้สัญลักษณ์เมาส์จะเปลี่ยนเป็นมือ ? แสดงว่าส่วนนั้นเป็นลิงก์

โฮมเพจ(Home Page) คือ หน้าแรกของเว็บไซต์คะ เปรียบได้กับหน้าปกหนังสือที่ผู้อ่าน (ผู้ใช้) จะเห็นเป็นอันดับแรก โดยปกติชื่อไฟล์โฮมเพจจะตั้งโดยใช้ชื่อว่า index หรือ default หรือ home คะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาษาที่ใช้พัฒนา อาทิ เช่น index.html, index.htm, default.html , index.shtml

ไฟล์ html หรือ htm คือ ชนิดของไฟล์หน้าเว็บและหน้าโฮมเพจ จะมีนามสกุลเป็น .html หรือ .htm ใช้ได้ทั้ง 2แบบ

ลิ้งค์(Links)คืออะไรเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการที่อินเตอร์เน็ตได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางอยู่ทั่วโลกนั่น เป็นผลมาจากความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูล(Links) จากฐานข้อมูลหนึ่งไปยังฐานข้อมูลหนึ่งได้อย่างรวดเร็วในโลกของ อินเตอร์เน็ต การเชื่อมต่อกันเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุดถ้ามีอินเตอร์เน็ตแต่มันไม่เป็นอิสระและไม่เชื่อมต่อกัน คงไม่ค่อยมีประโยชน์เดิมทีระบบอินเตอร์เน็ตพัฒนามาจากเครือข่ายเตือนภัยระหว่างหน่วยงานเพื่อความมั่นคงของสหรัฐทั่วประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อออนไลน์ระวังภัยที่จะคุกคามความมั่นคงของชาติตลอด 24 ชั่วโมง แต่ในปัจจุบันอินเตอร์เน็ตได้ถูกพัฒนายิ่งขึ้น จนกลายเป็นระบบสื่อสารที่เชื่อมโยงโลกทั้งโลกเข้าด้วยกัน........และการ Links ก็คือการที่เราต้องการเปิดเว็บเพจไปยังจุดหมายอื่นในเวบเพจเดียวกันหรือไปยังเวบเพจอื่นต้องมีการเขียนคำสั่ง กำหนดเส้นทางที่ต้องการจะไปและผู้ใช้ก็เพียงแค่... คลิกเม้าส์.. ! ที่จุดนั้นเพื่อเข้าไปยังจุดหมายที่กำหนดไว้

การเตรียมตัวก่อนลงมือทำเว็บมีกี่ข้ออะไรบ้าง เตรียมตัวหาข้อมูลออกแบบโครงสร้างขนาดและสีตัวอักษร

วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ใบงานที่ 3

3.1
1.แถบเครื่องมือลัด
2.แถบเครื่องมือด่วนเอง
3.ไตเติ้ลบาร์
4.คอนโทรเมนู
5.เมนูบาร์
6.ทลูบาร์
7.ไม้บรรทัด
8.เคร้าเซอร์
9.เมาส์พ้อยเตอร์
10.มุมมองเอกสาร
11.ปุ่มย่อ/ขยายเอกสาร
12.ปุ่มเลื่อนจอภาพ
13.แถบสถานะ
14.สโครลบาร์
15.สโครลบล็อกซ์
16.สโครลแอโร่

3.2
1.หน้าแรก
2.แทรก
3.เค้าโครงหน้ากระดาษ
4.การอ้างอิง
5.การส่งจดหมาย
6.ตรวจทาน
7.มุมมอง
8.add-in

3.3
1.ง
2.ข
3.ข
4.ค
5.ง
6.ง
7.ก
8.ข
9.ค
10.ข
11.ง
12.ข
13.ก
14.ข
15.ค

Basketball

บาสเกตบอล ( basketball) เป็นกีฬาชนิดหนึ่งซึ่งแบ่งผู้เล่นเป็น 2 ทีม แต่ละทีมประกอบด้วยผู้เล่น 5 คนพยายามทำคะแนนโดยการโยนลูกเข้าห่วงหรือตะกร้า (basket) ภายใต้กติกาการเล่นมาตรฐาน
ตั้งแต่ที่คิดค้นขึ้นในปี พ.ศ.2434(ค.ศ. 1891) โดย เจมส์ ไนสมิท บาสเกตบอลได้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นกีฬาสากล กีฬานี้มีจุดเริ่มต้นจากในวายเอ็มซีเอ ลีกที่เกิดขึ้นในสมัยแรก ๆ เป็นระดับมหาวิทยาลัย ต่อมากลายเป็นกีฬ่าอาชีพ มีการจัดตั้งลีกเอ็นบีเอ (National Basketball Association, NBA) และเริ่มมีการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกเมื่อ พ.ศ.2479 (ค.ศ. 1936)ถึงแม้ว่าในระยะแรกยังเป็นกีฬาที่เล่นเฉพาะในสหฐัอเมริกา กีฬาชนิดนี้แพร่ขยายไปสู่ระดับสากลด้วยความรวดเร็ว ปัจจุบันมีนักกีฬาและทีมที่มีชื่อเสียงตามที่ต่าง ๆ ทั่วโลก
บาสเกตบอลเป็นกีฬาที่เล่นในร่มเป็นหลัก สนามที่ใช้เล่นมีขนาดค่อนข้างเล็ก คะแนนจะได้จากการโยนลูกเข้าห่วงจากด้านบน (เรียกว่า ชู้ต, shoot) ทีมที่มีคะแนนมากกว่าในตอนจบเกมจะเป็นฝ่ายชนะ สามารถนำพาลูกโดยการกระเด้งกับพื้น (เลี้ยงลูก, dribble) หรือส่งลูกกันระหว่างเพื่อนร่วมทีม เกมจะห้ามการกระทบกระแทกที่ทำให้เป็นฝ่ายได้เปรียบ (ฟาล์ว, foul) และมีกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการครองบอล
เกมบาสเกตบอลมีการพัฒนาเทคนิคการเล่นต่าง ๆ เช่น การชู้ต การส่ง และ การเลี้ยงลูก รวมไปถึงตำแหน่งผู้เล่น (ซึ่งตามกฎแล้วไม่จำเป็นต้องมี) และตำแหน่งการยืนในเกมรุกและเกมรับ ผู้เล่นที่ตัวสูงถือเป็นข้อได้เปรียบ ถึงแม้ว่าในการเล่นแข่งขันจะควบคุมโดยกฎกติกา การเล่นรูปแบบอื่น ๆ สำหรับเล่นผ่อนคลายก็มีการคิดขึ้น บาสเกตบอลยังเป็นกีฬาที่คนนิยมดูอีกด้วย